วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2553

ในโลกนี้มีเรื่องราวมากมายที่รอการรับรู้ มีความจริงมากมายที่รอให้ปวดใจ

เข้าเขตอำเภอปากช่องด้วยเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเศษ และเลยตัวอำเภอไปไม่ไกลเท่าไรนัก นายบุญทองก็เลี้ยวรถเข้าสู่ถนนลูกรัง ใต้ร่มเงาของต้นหางนกยูงที่กำลังออกดอกสีส้มสดเต็มต้น เบื้องหน้าคือกระท่อมไม้ที่ห้อมล้อมด้วยหมู่ต้นเฟื่องฟ้าหนาแน่น “ถึงแล้วหมอ คุณพ่อของคุณอยู่ข้างในนั้นรีบไปเถอะ”นายแพทย์นพพรรีบลงจากรถเดินกึ่งวิ่งผ่านเนินหญ้าเข้าไปในกระท่อมไม้หลังนั้น และเมื่อเขาผ่านเข้าประตูไป พระเจ้า... ร่างของชายชราผมหงอกขาวโพนที่นอนซมอยู่บนเตียงนั่น... คือพ่อของเขานั่นเอง นายแพทย์นพพรผวาเข้าไป “พ่อ พ่อ พ่อครับผมมาแล้ว”
เปลือกตาที่สั่นระริกของชายชรา ค่อยๆแย้มเปิดขึ้นด้วยความยากลำบาก นายแพทย์นพพรรีบจับชีพจรของพ่อ โอ้พระเจ้า...เขารู้สึกเย็นสะท้านกลางแผ่นหลัง เขามาช้าไปชีพจรของชายชราเต้นช้าลง ช้าลงและกำลังจะหยุดเต้น ร่างของชายชราผู้เป็นพ่อซูบผอมจนแทบจะเหลือเพียงหนังที่ห่อหุ้มกระดูก เขารวบรวมกำลังเท่าที่ยังเหลืออยู่เพียงน้อยนิด บีบมือลูกชายแผ่วเบา... เขามีกำลังเหลือเพียงเท่านั้น ก่อนที่เปลือกตาจะปิดลงและมือของเขาก็หมดกำลังคลายออกช้าๆ
นายแพทย์นพพรร้องไห้คร่ำครวญซบหน้าลงบนร่างที่ไร้วิญญาณของผู้เป็นพ่อ พ่อรอเขาอยู่ รอที่จะพบหน้าลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย และรอจนวินาทีสุดท้ายบุญทองนั่งน้ำตารินไหลอาบแก้มอยู่ข้างๆปลายเท้าชายชราผู้จากไป และซบหน้าลงตรงนั้น ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปยืนที่ราวระเบียงหน้ากระท่อม ด้วยใบหน้าที่ยังคงชุ่มโชกไปด้วยหยาดน้ำตา
เขาจากไปแล้ว จากไปอย่างไม่มีวันกลับ เพียงสัมผัสสุดท้ายเท่านั้นที่แทนคำร่ำลา โอ้...พระเจ้า... เขาต้องการเพียงเพื่อจะพบลูกชายในวาระสุดท้ายของชีวิตเท่านั้นนะหรือ นายแพทย์นพพรกราบลงที่แทบเท้าร่างไร้วิญญาณของผู้เป็นพ่อ แล้วลุกขึ้นตามหลังบุญทองออกไป สายตาของบุญทองมองตรงไปที่ปากทางเข้าไร่ และรำลึกถึงภาพในอดีตที่ไม่เคยลางเลือนไปจากความทรงจำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น